ไดสัน ทำการเปิดตัว Dyson Zone – เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา + หูฟัง ANC

ไดสัน ทำการเปิดตัว Dyson Zone – เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา + หูฟัง ANC

ไดสัน ทำการเปิดตัว Dyson Zone ผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทที่เป็นการผสมผสานระหว่างเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาเข้าไปด้วยกันกับหูฟัง ANC (30 มี.ค. 2565) ไดสัน (Dyson) บริษัทผู้เชี่ยวชาญทางด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าประจำบ้าน และเครื่องฟอกอากาศชื่อดัง ได้ทำการประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นการผสมผสานในส่วนของเครื่องฟอกอากาศแบบพกพา รวมเข้าไปด้วยกันกับหูฟังป้องกันเสียงรบกวน (ANC) ที่มีชื่อเรียกว่า Dyson Zone

โดยเจ้า Zone นั้น จะมีการใช้งานเครื่องฟอกอากาศแบบย่อส่วน 

ที่สามารถถอดประกอบได้ ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวนั้นจะทำการดึงอากาศมาจากที่ครอบหูฟัง ที่จะผ่านชุดกรองอากาศ 2 ชั้นที่จะใช้งานตัวกลาง Electrostatic ที่จะทำการจับละอองขนาดเล็กจากอากาศในขณะที่ก็จะช่วยให้ตัวชุดกรองนั้นมีขนาดเล็ก และเบาได้ ในส่วนของกระบังหน้า (ตามที่ Dyson ได้เรียกไว้) นั้น จะไม่มีการสัมผัสใบหน้าของผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินการสร้างตัวต้นแบบไปมากถึง 500 กว่าชิ้น จนกว่าจะได้ผลิตภัณฑ์ที่เราใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน

นอกจากนี้แล้ว Zone ยังสามารถทำการปรับการจัดส่งอากาศด้วยตัวเองได้ ไม่ว่าผู้ใช้งานจะอยู่ในบริบทในก็ตาม รวมถึงการป้องกันการเข้ามาของอากาศที่ไม่ผ่านการกรองไปสู่จมูก และปากของผู้ใช้ได้

ทางด้านของหูฟังนั้น มันจะมาพร้อมกับการป้องกันเสียงรบกวน และใช้งาน Neodymium Magnets โดยทั้ง 2 อย่างนี้ เป็นคุณสมบัติที่เปิดเผยมาในเบื้องต้น ทางด้านของการใช้งาน มันจะรองรับการใช้งานได้ 40 ชม. และทำการชาร์จไฟผ่าน USB-C (ชาร์จได้ 60% ภายใน 20 นาที) รวมถึงสามารถทำการถอดตัวกระบังหน้า เพื่อใช้งานเป็นหูฟังอย่างเดียวก็ได้เช่นกัน

ซึ่งเมื่อทำการใช้งานพร้อมกันนั้น (หูฟัง + กระบังหน้าฟอกอากาศ) มันจะใช้งานได้สูงสุดถึง 4 ชม. : 2 ชม. หากใช้งานในระบบการตั้งค่าขั้นต่ำ และ 1 ชม. ในระบบการตั้งค่าแบบเต็มที่

มีการคาดการณ์กันมาว่า ระบบการปลดล็อคตัวเครื่องผ่าน Touch ID แบบใต้หน้าจอสำหรับ iPhone นั้น จะไม่ปรากฏตัวให้เห็นภายใน 2 ปีนี้ (30 มี.ค. 2565) หลังจากที่มีข่าวกันอยู่เรื่อย ๆ ถึงระบบการปลดล็อคตัวเครื่องผ่าน Touch ID แบบใต้หน้าจอสำหรับ iPhone ที่ทาง Apple นั้น กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา และได้มีการพูดถึงกันว่าเราอาจจะได้เห็นมันภายในช่วง 1-2 ปีนี้ แต่ก็มีผู้ที่ออกมาคัดด้านว่ามันจะใช้เวลามากกว่านั้น

โดยการคาดการณ์ที่ว่านี้ก็มาจาก Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ชื่อดังที่ได้กล่าวชี้แจงเพิ่มเติม หลังจากที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ระบบ Touch ID ใต้หน้าจอ จะโผล่มาให้เราได้เห็นกันภายในครึ่งปีหลังของปี 2023 ซึ่งเขาได้กล่าวว่า

“ก่อนหน้านี้ ผมได้ทำการคาดการณ์ว่า iPhones จะทำการรองรับระบบการแสกนลายนิ้วมือ/Touch ID ใต้หน้าจอ อย่างเร็วที่สุด ภายในปี 2023 แต่จากการสำรวจล่าสุดก็พบว่า iPhones ใหม่ ภายในปี 2023-24 นั้นอาจจะไม่รองรับการประยุกต์ใช้งานระบบ Touch ID ใต้หน้าจอ และระบบ Face ID ขณะสวมหน้ากาก ก็ถือว่าเป็นวิธีการทางด้าน biometrics ที่ดีแล้วในเวลานี้”

ซึ่งก่อนหน้านี้นั้น Apple ได้ทดลองระบบดังกล่าวภายใน iPhone 13 ก่อนที่จะทิ้งมันออกไป เมื่อทำการปล่อยตัวสมาร์ทโฟนอย่างเป็นทางการ และอย่างที่ Kuo ได้พูดไป Face ID with a Mask ที่เพิ่งปล่อยออกมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็ถือว่าเป็นอะไรที่เพียงพอแล้วในเวลานี้

ถึงแม้ว่าระบบแสกนใต้หน้าจอจะดูน่าสนใจ และมีประโยชน์ก็ตาม Kuo ได้มองว่าเราอาจจะไม่เห็นมันภายในเร็ว ๆ นี้ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ว่า Apple จะทดลองใช้งานระบบ Touch ID บริเวณปุ่ม Power แบบเดียวกับ iPad Air และ iPad mini แต่ก็ยังไม่มีข่าวต่าง ๆ ที่ชี้แนะว่า Apple จะทอลองในแนวทางนี้

หลุด! ภาพตัวเครื่องของ Samsung Galaxy M53

หลังจากที่มีการประกาศถึงการเตรียมวางขายภายในประเทศเวียดนามแล้วนั้น ก็ได้มีการหลุดออกมาของภาพตัวเครื่อง Samsung Galaxy M53 แล้ว (30 มี.ค. 2565) เมื่อเร็ว ๆ นี้ Samsung ได้ทำการประกาศถึงการเตรียมวางขายสมาร์ทโฟน Galaxy M53 ภายในประเทศเวียดนามกันไปแล้ว แต่ก็ยังไม่มา (มาแค่ M23 และ M33) ให้เราได้เห็นกันเสียที ซึ่งต่อมานั้นก็ได้มีการหลุดออกมาของภาพตัวเครื่องแบบจริง ๆ ออกมาให้ได้รับชมกัน

ซึ่งจากภาพนั้น M53 ถือว่ามีความแตกต่างจากตัวรุ่น A73 5G และมีความคล้ายคลึงกับรุ่น M33 แทน ด้วยองค์ประกอบด้านหลังที่มีชุดกล้องนูน 4 ตัว และ LED Flash ด้านล่างข้างนอกกลุ่มกล้อง ที่คาดว่าจะมีกล้องหลัก 108 MP, 8 MP ultra wide และ 2 MP macro – depth รวมไปถึงในส่วนกล้องหน้า 32 MP

ในส่วนของหน้าจอนั้น ก็ว่ากันว่าจะมาในขนาด 6.7 นิ้ว และเป็นในรูปแบบเดียวกันกับ A73 : เส้นทแยงมุม และ Refresh Rate 120 Hz

รายละเอียด และความเป็นไปได้อื่น ๆ ของ M53 ก็มีด้วยกันดังนี้

– Dimensity 900 ตามการพบเห็นบนเว็บไซต์ Geekbench

– แบตเตอรี่ 5,000 mAh และระบบการชาร์จไฟไว 25W

ในส่วนของราคานั้น มันจะมาภายใต้ราคาประมาณ 10,500,000 ดงเวียดนาม หรือ 15,350.02 บาท ซึ่งก็พอจะถือได้ว่า M53 จะถือว่าเป็นตัวเลือกอีกทางสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นประหยัดในกรณีที่ยังไม่สามารถเข้าถึงตัวรุ่น A Series ได้

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า